ข้อมูลภาพรวมศึก Shanghai Major

Shanghai Major
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

คงพูดได้เต็มปากว่า เมเจอร์แรกที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต นั้นประสบความนสำเร็จแบบถล่มทลาย ไม่ว่าในส่วนของคอเกมหรือผู้ลงแข่งเองก็ตาม เป็นที่ชัดเจนว่าทัวร์นาเมนต์พิเศษๆ ที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ ให้คุณได้รู้สึกเหมือนกับ ทัวร์นาเมนต์ที่มีเงินรางวัลเยอะที่สุดในโลกอย่าง The International โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการจัดการ ความยิ่งใหญ่อลังการ และแน่นอนว่า เงินรางวัลที่สุดแสนจะล่อตาล่อใจ

 

ส่วน เมเจอร์ที่ 2 นี้จะจัดขึ้นที่ Mercedes-Benz Arena ในเมืองชางไห่ หรือเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งเมเจอร์ฤดูหนาวนี้ประกอบไปด้วย 16 ทีมโดต้า 2 ที่เทพที่สุด มาประชันกัน ซึ่งจะมี 8 ทีมที่ได้รับเชิญมาโดยตรง และอีก 8 ทีมที่บุกบั่นฝ่าฟันแข่งขันจนได้เป็นตัวแทนของภูมิภาค เพื่อมายืนบนเวทีระดับโลกแห่งนี้

 

ทีมที่ได้รับเชิญทั้ง 8 ทีมคือ: แชมป์เมเจอร์ที่แล้ว OG, ทีมอันดับ 1 ของโลกในขณะนี้ Evil Geniuses, ทีมอีนดับ 1 ของจีน EHOME พร้อมทีมบ้านเดียวกัน CDEC และ Vici และทีมสุดท้ายนั่นก็คือ หมีขาวรัสเซีย Virtus.Pro
ส่วนทีมผ่านรอบคัดเลือกของแต่ซะภูมิภาคมีดังนี้:
โซนอเมริกา – ทีม Archon และทีม complexity
โซนยุโรป – ทีม Liquid และทีม Spirit
โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – Fnatic และ MVP Phoenix
ประเทศจีน – LGD และ Newbee
ส่วนรอบแบ่งกลุ่มจะมีขึ้นในวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์นี้ แต่ละทีมถูกจับฉลากเพื่อที่จะแข่งในรอบแบ่งกลุ่มดังนี้
กลุ่ม A – CDEC, EHOME, MVP Phoenix, Secret
กลุ่ม B – Alliance, Fnatic, Spirit, Vici
กลุ่ม C – LGD, OG, Archon, Newbee
กลุ่ม D – complexity, Evil Geniuses, Liquid, Virtus.Pro

 

shanghai major qualifiers
รอบแบ่งกลุ่มนั้นจะเป็นการแข่ง Bo3 แบบสาย บน-ล่าง ซึ่งนั่นหมายความว่า ทีมที่ชนะจากแต่ละกลุ่มจะได้ไปแข่งในสายบนโดยอัตโนมัติ และ 2 ทีมที่แพ้ใน 2 แมตช์แรกจะมาเจอกันเพื่อชิงที่ 2 ในกลุ่มเพื่อที่จะไปแข่งในสายบนเช่นกัน ในขณะที่ 2 ทีมที่แพ้จะต้องลงไปแข่งในสายล่าง
วันแข่งจริงจะมีขึ้นในวันที่ 2-6 มีนาคมนี้ และทีมทั้ง 16 จะมาแข่งขั้นกันในวันนั้นซึ่งรูปแบบการแข่งขันในสายบนจะเป็นแบบ Bo3 เช่นกัน ซึ่งหนทางไปสู่รอบ Grand Final ของสายบนนั้นจะสั้นกว่า คือจะต้องชนะ 3 เกมติดต่อกันทั้น แต่ถ้าหากทีมใดแพ้ ก็จะมีโอกาสครั้งที่ 2 ลงไปแข่งที่สายล่างเพื่อเข้าสู่รอบที่ลึกขึ้น
การแข่งขันในสายล่างนั้นจะยากกว่าสายบน เพราะจะต้องชนะ 6 เกมติดต่อกัน เพื่อไปแข่งในรอบรอบ Grand Final ซึ่ง 2 รอบแรกในสายล่างจะแข่งในแบบ Bo1 และ และในอีก 4 รอบที่เหลือจะเป็นแบบ Bo3 ตามปกติ และตั้งแต่สเตจ 2 เป็นต้นไปทีมชนะจะต้องเจอกับทีมที่แพ้จากสายบน และรอบ Grand Final จะเป็นการแข่งแบบ Bo5
มาถึงส่วนของสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด นั่นก็คือเงินรางวัลนั่นเอง ด้วยจะมีส่วนแบ่งดังนี้:
แชมเปี้ยน – 1,110,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 38.8 ล้านบาท
อันดับ 2 – 405,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 14.1 ล้านบาท
อันดับ 3 – 315,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 11 ล้านบาท
อันดับ 4 – 255,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 8.9 ล้านบาท
อันดับ 5 และ 6 – 202,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 7 ล้านบาท
อันดับ 7 และ 8 – 105,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 3.6 ล้านบาท
อันดับ 9 ถึง 12 – 45,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท
อันดับ 13 ถึง 16 – 30,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 1 ล้านบาท

 

 

 

 

อยากเพิ่มความตื่นเต้นในการทายผลผู้ชนะศึก Shanghai Major ไหม? คลิกดูราคาต่อรองโดยดาฟาเบทที่นี่เลย 🙂