ไม่กี่อาทิตย์ก่อน Valve Corporation หนึ่งในผู้พัฒนายักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมกีฬาอิเล็กทรอนิกส์เพิ่งเลือกวิธีปรับสถานะโปรดักเก่าแก่ในมืออย่าง ‘Counter Strike: Global Offensive’ หรือ “CS:GO” ที่เดิมทีเป็นเกมที่วางจำหน่ายในตลาดมาเนิ่นนานกว่า 6 ปี ให้กลายเป็น “ของฟรีแบบไม่มีเงื่อนไข”
ผลกระทบดังกล่าวสร้างการเปลี่ยนแปลงให้วงจรผู้เล่นเกม FPS ชั้นนำตัวนี้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเพียงสัปดาห์แรกของการแจกจ่ายให้โหลดเกมได้ฟรีๆ ก็มีผู้เล่นมากถึง 749,645 คน‘ เป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 2 ปี เป็นรองแค่สถิติสูงสุดตลอดกาลที่เกมนี้เคยทำที่ ‘854,801 คน‘ ซึ่งต้องย้อนกลับไปไกลถึง ปี 2016
แต่กระนั้นหลายคนก็ยังมองว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ มากมาย อาทิ การใช้งานโปรแกรมโกงที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
แต่ที่น่าสนใจ คือ เหล่าโปรเพลเยอร์ที่ทำมาหารับประทานด้วยเกมนี้จะมีทัศนคติต่ออิมแพ็คนี้อย่างไร?
Yassine “Subroza” Taoufik จาก Ghost Gaming กล่าวว่า “ในที่สุด Valve ก็ทำอะไรเสียที ผมคิดว่าการอัพเดตนี้กำลังเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะมันทำให้คนเล่นเพิ่มขึ้น ซึ่งมันดีกับทุกคนอยู่แล้ว”
ด้าน Damian “daps” Steele ตัวสั่งการ NRG เผยว่า “การที่เกมกลายเป็น Free to Play เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผม เพราะมันช่วยให้แต่ละทีมได้แสดงผลงานต่อหน้าผู้ชมที่ขยายตัวอยู่ตลอดเวลา”
ขณะเดียวกัน Andreas “Xyp9x” Højsleth กล่าวไปในแนวเดียวกันว่า “ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ว่า โปรแกรมโกงจะมากขึ้นแน่ แต่มันก็เป็นวิธีที่ตรงจุดที่สุดในการดึงดูดผู้เล่นกลุ่มใหม่ ที่ข้อดีมันมีมากกว่าเสีย”
“แต่ยังไงผมก็เชื่อว่า Valve จะแก้ปัญหาเรื่องโปรแกรมโกงได้แน่ๆ” ตัวเก่งจาก Astralis แสดงความเห็น
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ถึงผู้เล่น 3 คนจะออกปากชมการแก้ปัญหาของ Valve แต่เมื่อถามความเห็นเกี่ยวกับ “Danger Zone” โหมด Battle Royale ที่ถูกใช้เป็นหนึ่งจุดขายที่มาพร้อมของฟรี ทุกคนก็ยังลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า โหมดนี้ยังมีดีแค่เอาไว้เล่นสนุกและมีข้อบกพร่องอยู่เยอะ หากอยากล้มเกมแนว Survival จริงจัง คงต้องพัฒนาและแก้ไขอะไรอีกมาก
แต่ถ้าค่ายเจ้าของ Steam จะเอาจริง ในอนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้