แม้ Playerunknown’s Battlegrounds (PUBG) เพิ่งจะมี PUBG Global Invitational 2018 (PGI 2018) ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกที่มีคนดูพร้อมกันถึง 39 ล้านคน แต่ Brendan ‘PlayerUnknown’ Greene บิดาผู้ให้กำหนดเกม รวมไปถึงเกมเมอร์ชื่อดังอดีตนักแข่งเกมอาชีพอย่าง Michael Grzesiek หรือ “Shroud” ก็ได้กล่าวในทิศทางเดียวๆ กันมาโดยตลอดว่า “PUBG ยังไม่พร้อมจะเป็นอีสปอร์ต” (ในขณะที่รายหลังกเน้นหนักว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าเกมนี้พร้อมจะเป็นอีสปอร์ตหรือไม่ อีกต่างหาก)
ไม่เพียงแค่นั้น นักแข่งเกมชื่อดังที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Tyler ‘Ninja’ Blevins เองยังมองว่า องค์ประกอบหลักที่ทำให้ PUBG ไม่ได้รับการยอมรับในระดับการแข่งขัน ส่วนหนึ่งมีต้นสายปลายเหตุมาจาก “การพึ่งพาอาศัยดวงมากกว่าที่อีสปอร์ตเกมอื่น”
“บางคนบอก PUBG เป็นเกมใช้ฝีมือ แต่ความจริง มันตรงกันข้ามเลยต่างหาก”
สตรีมเมอร์ที่มียอดผู้ชมสูงสุดในโลกออนไลน์ ซึ่งโด่งดังมาจากการสตรีมเกม PUBG และ Fortnite กล่าวด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจังกลางรายการ H3 Podcast หลังจากพิธีกรกล่าวเปรียบเทียบระบบการเล่นของ Fortnite กับ PUBG
“บางคนแค่เห็นคุณจาก scope x15 หลบอยู่ในบ้าน แล้วสังหารคุณซะ”
“การเล็งและยิงคนไม่ใช่เรื่องยากเลย ทักษะการเล็งและยิงปืนไม่สามารถบอกได้หรอกว่าใครมีฝีมือมากกว่ากัน การที่เราจะบอกได้ว่า ใครเล่นเกมเก่งกว่าล้วนขึ้นอยู่กับความสามารถในการตัดสินใจ นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าทักษะที่ใช้ใน PUBG ถึง 10 ระดับ”
“ผมไม่ได้บอกว่าเกมนี้ไม่ใช้ฝีมือนะ แต่ถ้าถามความเห็นผมคือ มันใช้ฝีมือน้อยมากกว่าเกมอื่น แค่นั้นเอง”
อย่างไรก็ตาม ไม่นานนี้ทาง Bluehole ผู้พัฒนาเกมก็ได้มีความพยายามเพิ่มเติมโหมดใหม่ที่เพิ่มอัตราการดรอปอาวุธและยานพาหนะ โดยมีจุดมุ่งหมายให้การวัดฝีมือของผู้เล่นเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น แต่เกมที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Battle Royale ยังไงก็หนีไม่พ้นการพึ่งพาอาศัยโชคอยู่ดี
