ในเมื่อคนเรามีตา 2 มือ 2 และสมองเพียงหนึ่ง การจะเล่นเกมหลายเกมพร้อมกันจึงแทบจะไม่ใช่เรื่องปกติของปุถุชนคนธรรมดา จะเป็นไปได้ก็แค่การสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเล่นเกมอื่นก็อาจมีบ้าง
แต่เชื่อหรือไม่ว่า สำหรับเกมเมอร์สายพันธุ์อีสปอร์ตที่ขึ้นชื่อเรื่องรักเดียวใจเดียว การจะเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาไม่ค่อยจะบ่อยนัก
เห็นได้จากตัวเลขล่าสุดของ Newzoo บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลที่ขึ้นชื่อเรื่องการรวบรวม Big Data ในวงการเกมที่เปิดเผยพฤติกรรมของผู้เล่น “Dota 2”, “League of Legends” (LoL) และ “Counter Strike: Global Offensive” (CSGO) หลายร้อยล้านรายจาก 10 ประเทศชั้นนำแห่งวงการเกมในยุโรปตะวันตกที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้เล่น 3 เกมดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นคนที่เล่นเกมรักเกมเดียวมากถึงร้อยละ 69 โดยจำนวนผู้เล่น LoL เข้าวินมาเป็นอันดับ 1 ที่ 32% รองลงมาคือ CSGO 24% และ Dota 2 ที่ 13% (ซึ่งตัวเลขนี้อาจบอกความนิยมของทั้ง 3 เกมนี้ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ความนิยมของ Dota 2 จะไปอยู่ในฝั่งเอเชียและยุโรปตะวันออกมากกว่า)
เมื่อลองถามประสบการณ์ของผู้เล่นเหล่านี้มีเพียง 8% เท่านั้นที่เล่นทั้ง 3 เกมและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเป็นพิเศษ ส่วนที่น่าแปลกคือ “คนเล่น Dota 2 ควบคู่กับ LoL” มีจำนวนแค่ 6% เท่านั้น ทั้งที่ 2 เกมนี้มีพื้นฐานความเป็น Moba ที่ใกล้เคียงกัน กลับกัน “จำนวนคนเล่น LoL ควบ CSGO” ที่ต่างประเภทต่างค่ายกลับมีมากกว่ากลุ่มแรกเกือบ 2 เท่า (11%) เลยทีเดียว
นั่นหมายความว่า Dota 2 และ LoL ถือเป็นคู่แข่งแห่งวงการอีสปอร์ตที่แฟนๆ มีวัฒนธรรมการแบ่งแยกกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เฉพาะที่เห็นในไทย แต่เกิดขึ้นในรูปแบบเดียวกันทั่วโลก
ถ้าเป็นเช่นนี้ ประเด็นการถกเถียงกันว่า LoL กับ Dota 2 เกมไหนเป็นเบอร์ 1 ต่อจากนี้คงจะมีให้เห็นไปอีกนาน